4 ช่องทางการจัดส่งที่ตอบโจทย์ร้านของคุณ

BN_which_delivery.png

อีกปัจจัยสำคัญของการขายของออนไลน์คือเรื่องของการจัดส่งสินค้า ซึ่งการจัดส่งสินค้านั้นก็มีมากมายหลายรูปแบบ แต่ละแบบก็จะมีความเหมาะสมแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับธุรกิจนั้นๆ แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าธุรกิจของเราเหมาะจะใช้บริการจัดส่งรูปแบบไหน? พิมเพลินจำแนกประเภทเอาไว้แล้วให้แล้วค่ะ!

1.พัสดุลงทะเบียน

รูปแบบการจัดส่งที่คุณเคย มีข้อดีที่ราคาถูก แต่ค่อนข้างใช้เวลาในการจัดส่งนาน(ประมาณ 5-7 วัน) และบริการอาจจะไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไหร่นักจึงไม่เหมาะสำหรับสินค้าที่บอบบางแตกหักง่ายหรือ มีมูลค่าสูง ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับจัดส่งสินค้าทั่วไปที่ทนต่อการกระแทก ไม่หมดอายุง่ายๆและน้ำหนักเบา เช่น สินค้าแฟชั่น, ครีมบำรุงผิว, สินค้ากระจุกกระจิก, เคสมือถือ, กระเป๋าผ้า เป็นต้น

2.EMS

ถึงราคาจะสูงกว่าแบบลงทะเบียนสักเล็กน้อยแต่ EMS ก็เป็นรูปแบบการจัดส่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเวลานี้ เพราะบริการที่ดีกว่าและจัดส่งเร็วกว่าแบบลงทะเบียน(3-5 วันขึ้นอยู่กับระยะทาง) ซึ่งสินค้าที่เหมาะสำหรับการจัดส่งแบบ EMS ค่อนข้างหลากหลาย อาทิ สินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง, โทรศัพท์มือถือ, ของเล่นเด็ก, แว่นกันแดด, อุปกรณ์สำหรับมือถือหรือคอมพิวเตอร์(เม้าส์, สายชาร์ต, พาวเวอร์แบงค์, ไม้เซลฟี่) ฯลฯ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงส่งสินค้าแบบ EMS

3.ขนส่งเอกชน (Kerry Express, Grabbike, DHL, Line Man)

อีกหนึ่งช่องทางที่กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยบริการที่พรีเมี่ยมกว่าการจัดส่งแบบทั่วไป สามารถจัดส่งสินค้าน้ำหนักเยอะได้ มีความปลอดภัยสูง และจัดส่งสินค้าได้ทันที (ใช้เวลาไม่เกิน 1-2 วัน ขึ้นอยู่กับระยะทาง) ซึ่งมีผู้ให้บริการมากมายหลายเจ้าในประเทศ ทำให้ธุรกิจหลายประเภทเลือกที่จะใช้บริการขนส่งเอกชน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแก่ลูกค้า และมอบสินค้าที่มีคุณภาพได้อย่างทันท่วงที ธุรกิจที่เหมาะจะใช้บริการขนส่งเอกชน ได้แก่ ธุรกิจอาหารกล่อง, จัดช่อดอกไม้ ที่ต้องแข่งกับเวลา เพราะหมดอายุได้ง่าย หรือแม้แต่สินค้าราคาแพง, เครื่องแก้ว ที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง นอกจากนี้ยังสามารถจัดส่งสินค้าน้ำหนักเยอะๆได้อีกด้วย เช่น เฟอนิเจอร์, สินค้าตกแต่งบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้า(ทีวี, ตู้เย็น) เป็นต้น

4.Page365 Express

มีรูปแบบบริการคล้ายกับ EMS เพราะใช้เวลาในการจัดส่งเท่ากัน และต้องส่งที่ไปรษณีย์เหมือนกัน แต่แตกต่างกันตรงที่ Page365 Express จะราคาถูกกว่าและไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวนานๆ เพราะคุณสามารถส่งของผ่านช่อง "ไปรษณีย์เพื่อธุรกิจ" ได้เลย ทำให้คุณมีเวลาจัดการกับธุระอื่นๆมากขึ้น

 

อย่าลืมนะคะ เลือกการส่งให้เหมาะกับประเภทสินค้าของคุณ เพราะบริการส่งสินค้าที่ดีและรวดเร็วจะช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า รับรองลูกค้าไม่หนีไปไหนอย่างแน่นอน ^^

 

 

หากคุณสนใจใช้งาน Page365 คุณสามารถ สมัครใช้งานฟรี

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เริ่มต้นกับ Page365 หรือ ทำไมเราถึงฟรี?