Page365

View Original

อยากขยายร้านออนไลน์ Page365 Store หรือ Lazada ศึกนี้ใคร Win?

Lazada ก็ดี Page365 Store ก็ใช่ เลือกแบบไหนดี? ถ้าคุณกำลังเลือกเว็บเพื่อขยายร้านเอาสินค้าคุณไปขาย อันดับแรกต้องเข้าใจก่อนกันว่า Page365 Store และ Lazada นั้นมีระบบการขายสินค้าอย่างไร?

ใครเริ่มต้นขายได้ไวกว่า?

  • Page365 Store : สามารถเชื่อมต่อร้านค้าที่คุณเปิดขายอยู่แล้วได้เลย สินค้าที่คุณโพสขายบน Facebook Page จะถูกดึงมาวางแสดงบนเว็บไซต์ Page365 Store อัตโนมัติ ไม่ต้องเขียนเว็บเอง แค่ตั้งค่าว่าจะโชว์สินค้าตัวไหนขึ้นเว็บ Page365 Store ของร้านคุณก็พร้อมขายทันที

  • Lazada : ต้องสมัครและส่งเรื่องเข้า Lazada เพื่อขอนำสินค้าวางขายในระบบของ Lazada เพื่อต้องจัดการสินค้าผ่านระบบที่ Lazada จัดทำขึ้นเท่านั้น จะไม่สามารถสร้างร้านขึ้นมาเอง และร้านที่มีสิทธิ์ขายต้องผ่านเงื่อนไขของทาง Lazada เท่านั้น

ใครทำการตลาดได้เจ๋งกว่า?

  • Page365 Store : เจ้าของร้านต้องทำการตลาดเองด้วยการต่อยอดจากการทำการตลาดบนหน้าเพจ ข้อดีคือ เว็บเป็นของคุณ สินค้าทั้งหมดในหน้าเว็บคือสินค้าคุณไม่ปะปนกับคู่เก่ง ไม่มีปัญหาเรื่องการเปรียบเทียบราคา ถ้าใครลงโฆษณาบน Facebook อยู่แล้วก็ยิ่งได้เปรียบ สามารถทำ SEO หรือวัดผลการโฆษณาเชิงลึกได้อย่างสบาย

  • Lazada : เป็นผู้ทำการตลาดให้ สะดวกสำหรับคนที่เพิ่งหันขาย Offline มา Online กว่า เพราะไม่ต้องปวดหัวเรื่องการหาลูกค้าเลย Lazada จัดการให้ แต่ทำใจกันนิดเพราะสินค้าคุณจะแสดงพร้อมกับของคู่แข่ง ให้เปรียบเทียบราคาได้ง่าย

เงินใครเข้าไวกว่ากัน?

  • Page365 Store : เป็นร่างเงาของเพจที่คุณใช้อยู่แล้ว ฉะนั้นการซื้อ-ขาย โอนเงินเข้าบัญชีคุณโดยตรง เว้นแต่คุณจะเปิดให้ลูกค้าจ่ายค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต กับ Page365

  • Lazada : เงินที่ลูกค้าจ่ายค่าสินค้าทุกออเดอร์จะเข้าระบบ Lazada ก่อน เพื่อรอสินค้าจัดส่งให้เรียบร้อยและคำนวน Commission ก่อนโอนเข้าสู่บัญชีคุณ

ใครตอบลูกค้าและรับออเดอร์ใครง่ายกว่า?

  • Page365 Store : ลูกค้าติดต่อร้านค้าจากปุ่มบนเว็บไซต์ที่ลิ้งค์มา Inbox Facebook Page ของร้าน คุณสามารถดูแลลูกค้าได้ทันที รวมถึงมีระบบช่วยตอบอัตโนมัต ช่วยรับลูกค้าในด่านแรก และมีบิลออนไลน์ช่วยอำนวยความสะดวกในการรับออเดอร์

  • Lazada : ลูกค้าติดต่อร้านค้าในรูปแบบคอมเม้นต์ในหน้ารายละเอียดสินค้า เราจะได้รับข้อความช้านิดหน่อยเพราะไม่ Real Time บางทีไม่ทันใจลูกค้า ส่วนการรับออเดอร์ไม่ต้องคอยจัดการบิลหรือปิดการขายเอง เมื่อลูกค้าตัดสินใจและกดสั่งซื้อ เราแค่รับออเดอร์และจัดส่งสินค้าให้เร็วที่สุด

การเลือกเว็บไซต์ในการขายสินค้าเปรียบเสมือนการหาทำเลหน้าร้านนั่นแหล่ะค่ะ ไม่ใช่ว่าเราจะ เอาอะไรมาขายที่ไหนก็ได้เสมอไปนะคะ ความเหมาะสมของตัวเรากับสถานที่ขาย และความเหมาะสมของสินค้าเรากับสถานที่ขาย เป็นเรื่องที่เราต้องคิดให้ดี ว่าแล้วตามไปเจาะ ข้อดี - ข้อจำกัด ของทั้ง 2 เว็บนี้ก่อนตัดสินใจเลือกหน้าร้านแห่งใหม่กันดีกว่าค่ะ 

Page365

ข้อดี เมื่อขายบน Page365 Store

  • เหมาะสำหรับผู้ที่ขายบน Facebook Page , Line และ IG อยู่แล้วและต้องการขยายหน้าร้านเพิ่ม โดยยังสามารถรับออเดอร์ในที่เดียว ที่เดิม ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงอะไร

  • ไม่ว่าร้านคุณจะเล็กแค่ไหน ก็ใช้งานได้ ไม่ต้องไปจ้างคนมาเขียนเว็บให้เปลืองเงิน

  • มีช่องทางการรับชำระเงินหลากช่องทาง ทั้งการโอนเงิน จ่ายด้วย QRcode และการรับชำระด้วยบัตรเครดิต

  • ลูกค้าที่จ่ายค่าสินค้าด้วยการโอนเงินจะเข้าบัญชีคุณทันที

  • สำหรับจ่ายด้วยบัตรเครดิตต้องรอให้ยอดขายถึงจำนวนนึงก่อนถึงจะถอนจากระบบ Page365 ได้ เพื่อไม่ให้คุณสิ้นเปลืองค่าธรรมเนียมการถอนที่ธนาคารเรียกเก็บเมื่อคุณถอนเงิน

  • การซื้อขายทำผ่านตัวกลางที่เรียกว่า "บิลออนไลน์" สะดวกและรวดเร็ว

  • สามารถนำไปทำการตลาดร่วมกับ Facebook Ads ได้

ข้อจำกัด เมื่อขายบน Page365 Store

  • ผู้ขายต้องทำการตลาดเอง หาลูกค้าเอง แต่จะง่ายมากหากคุณทำการตลาดร้านคุณบน Facebook อยู่แล้วก็ไม่ต้องมีอะไรที่ต้องเรียนรู้เพิ่ม ทำการตลาดที่ Facebook ที่เดิม แบบเดิมที่คุณทำอยู่แหล่ะค่ะ

  • ฟีเจอร์มีหลากหลาย ทั้งฟีเจอร์ที่ช่วยจัดการหลังร้านและ Page365 Store ผู้ขายต้องใช้เวลาเรียนรู้สักหน่อย

  • หากร้านคุณเริ่มใหญ่ แพ็กเกจฟรี อาจไม่เพียงพอ คุณอาจต้องเขยิบไปใช้ในแพ็กเกจที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้ใช้งานฟีเจอร์ได้มากขึ้น แต่ถ้าไม่ซีเรียส แพ็กเกจฟรี ก็ยังเปิดให้คุณใช้งานได้ตลอดชีพ

LAZADA

ข้อดี เมื่อขายบน Lazada

  • แบรนด์คุณจะเป็นที่รู้จัก สินค้าคุณจะมีคนเห็นเพิ่มมากเพราะ Lazada มีฐานคนซื้อนอนรอคุณหนาแน่นมาก

  • ไม่ต้องกังวลเรื่องการตลาด เพราะ Lazada ทำการตลาดดึงคนซื้อได้ยอดเยี่ยม ทั้ง ลด แลก แจกส่วนลดกระจุย เรียกได้ว่า ไม่มีวินาทีไหนเลยที่เข้าเว็บหรือ App Lazada แล้วไม่เห็นโค้ดส่วนลด

  • มีช่องทางการรับชำระค่าสินค้าหลายทางมาก ทั้งโอนเงิน จ่ายด้วยบัตรเครดิต ยันเก็บเงินปลายทาง เรียกว่า โค-ตะ-ระ สะดวกสำหรับคนซื้อ แต่สำหรับคนขายแบบเรา ก็จะแอบน้อยใจเล็กๆ เพราะเงินที่ขายสินค้าได้จะถูกพักในระบบ Lazada ก่อน เพื่อหัก Commission ให้กับทางแพลตฟอร์ม ก่อนจะถูกโอนเข้าสู่บัญชีของเรา

  • การขายดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับประเภทสินค้าเลยค่ะ ถ้าสินค้าแฟชั่น สินค้าฮิตๆ มาแรง เป็นกระเเส รุ่งโรจน์แน่ แต่ถ้าสินค้าที่คนไม่นิยม Search ไม่เวิร์คแน่บน Lazada

  • สินค้าเรามีโอกาส go inter ไปขายต่างประเทศบนเว็บไซต์ Lazada ในประเทศอื่นๆ

ข้อจำกัด เมื่อขายบน Lazada

  • เงินที่ขายได้ ไม่ได้เข้าบัญชีเราโดยตรง จะถูกพักไว้ในระบบของ Lazada เพื่อรอหักค่า Commission ก่อนจะโอนเข้าบัญชีผู้ขาย

  • Lazada ได้รายได้จาก Commission ของสินค้าที่เราไปวางขาย ฉะนั้นคำนวน ต้นทุน และ กำไรกันให้ดีนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะขาดทุนเอา

  • ต้องมีสต็อคสินค้าที่ชัวร์ แบบที่ว่า ลูกค้าสั่งแล้วไม่มีของให้ เสียค่าปรับนะจ๊ะ

  • มีเงื่อนไขหลายอย่างที่เอาใจผู้ซื้อแต่กลายเป็นภาระผู้ขายแบบเรา เช่น เมื่อลูกค้าสั่งของแล้วไม่เอา ขอ Cancel Order ผู้ขายต้องเสียค่าปรับ 50 บาท ฯลฯ

  • Credit Term เงินที่ได้จากการขายค่อนข้างนาน ต้องระวังเรื่อง Cash Flow ของร้านคุณให้ดีเลยค่ะ

สำหรับคนที่ทำการตลาดไม่เป็น อยากนั่งรอยอดขายอยู่บ้านเฉยๆ และยอมจ่ายค่า Commission แนะนำให้วางขายบน Lazada ส่วนคนที่ขายบน Facebook Page อยู่แล้ว ชอบการทำการตลาด เพราะได้ลูกค้าเป็นฐานของเราเอง ไม่ชอบวางขายสินค้าเรากับคู่แข่ง แนะนำที่ Page365 Store ค่ะ ลองพิจารณากันดูนะคะว่าตัวเราและสินค้าของเรานั้นเหมาะกับเว็บหรือแพลตฟอร์มแบบไหน เลือกหน้าร้านถูกเป็นประตูด่านหน้าของความสำเร็จนะคะ

 

 

หากคุณสนใจใช้งาน Page365 คุณสามารถ สมัครใช้งานฟรี

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เริ่มต้นกับ Page365 หรือ ทำไมเราถึงฟรี?